Style Sampler

Layout Style

Patterns for Boxed Mode

Backgrounds for Boxed Mode

1000/25-26 ชั้น 10 อาคารลิเบอร์ตี้พลาซ่า ซอยสุขุมวิท 55 คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพ 10110

0853666690

การเลือกชุดเจ้าสาว

การเลือกชุดเจ้าสาว

01-claudine-alyce-bridal-7869-h724

 

เลือกชุดเจ้าสาว คงต้องคุยกันยาวหน่อย ก่อนก้าวเข้าไปในร้านหรู ที่มีชุดวิวาห์แสนสวยลานดา คุณควรทำการบ้านสักนิดเพื่อจะได้เลือกชุดที่ถูกโฉลกกับเสรีระของคุณมากที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณเป็นเจ้าสาวที่สวนโดดเด่นที่สุดในงานของคุณเองนั่นแหละ ซึ่งถ้าหากคุณได้รู้ว่ารูปร่างแบบคุณควรใส่ชุดที่ออกแบบตัดเย็บอย่างไร เฉดสีแบบไหน ที่จะขับความงามของคุณให้ยิ่งงามมากขึ้นก็จะเป็นการง่ายสำหรับคุณในการเจาะจงเลือกซื้อ หรือเช่า กับผู้ขายได้อย่างสบายใจจริงไหม

 

  1. เลือกรูปทรงของชุดให้ตรงกับรูปร่างของคุณ

เชื่อแน่ว่าคุณคงไม่ปฏิเสธว่า รูปทรงของชุดแต่งงานสามารถทำให้คุณดูดีขึ้น หรือทำให้คุณดูไม่ดีเท่าที่ควรได้ ดังนั้น เรามาทำความรู้จักกับรูปทรงต่างๆ กันดีไหม คุณจะได้มีแนวทางในการเลือกชุดที่เหมาะกับรูปร่างของคุณและช่วยทำให้คุณเป็นเจ้าสาวที่สวยโดดเด่นสมเป็นเจ้าของงาน

  • ทองเอ หรือชุดเจ้าหญิง ทรงนี้จะเหมาะกับผู้หญิงทั่วไปไม่ว่าคุณจะมีทรวดทรงองค์เอวแค่ไหน คุณก็สามารถใส่ชุดเจ้าสาวทรงนี้ได้สวย ชุดนี้จะถูกออกแบบให้ตัดเย็บเข้ารูปกับทรวดทรงของผู้สวมแต่งโดยจะเดินตะเข็บตั้งแต่หัวไหล่ หรือช่วงอก ของตัวเสื้อ เรื่อยลงมาจนถึงตัวกระโปรง ซึ่งจะปล่อยช่วงเอว ดังนั้น ถ้าหากคุณมีช่วงเอวที่สั้น รูปทรงนี้จะเหมาะกับคุณมาก เพราะตัวกระโปรงจะถูกปล่อยบานออกเป็นรูปสามเหลี่ยม ดังนั้นเราจึงเรียกมันว่า “ทรงเอ”
  • Ball Gown ชุดกระโปรงสุ่มแบบคลาสสิก ตัวเสื้อจะรัดตรงช่วงอก เอวปล่อยเข้ารูปของผู้สวมใส่ และกระโปรงเต็มตัวเป็นชุดที่ดูแล้วเป็นผู้หญิงจริงๆ เหมาะกับผู้หญิงที่มีรูปร่างกระเดียดไปทางผู้ชาย (คือมีช่วงสะโพกที่แคบ) เพราะมันจะทำให้รูปทรงของผู้หญิงเหล่านี้ดุมีโค้งมีเว้าขึ้นมาบ้าง
  • Basque Waist คุณมีรูปร่างที่เซ็กซี่ตามมาตรฐานสากลโลกหรือเปล่าล่ะ ถ้าใช่ นั่นหมายความว่าคุณจะต้องมีเอวที่เล็กคอดสะโพกพายออกสวย ถ้าอย่างนั้นแล้ว เราอยากแนะนำให้คุณสวมชุด Basque Waist ซึ่งจะมีรูปทรงเป็นรูปตัว V ตรงช่วงท้องด้านหน้า รูปทรงที่เรียวบางนี้ จะช่วยเสริมส่วนเว้าของเอว และเน้นสะโพกให้เข้ารูปสวยยิ่งขึ้น ส่วนรูปแบบการตัดเย็บยังคงเหมือนกับ สองทรงแรก คือตัวเสื้อรัดอก และกระโปรงยาวติดพื้น
  • Empire ชุดนี้จะรัดอกเล็กน้อยมีช่วงเอวที่สูงและกระโปรงค่อนข้างมีลักษณะเหมือนทรงเอ โดยเย็บติดกับตัวเสื้อ ตั้งแต่ช่วงอกลงมา รูปทรงนี้จะช่วยทำให้เอวของคุณดูเล็กลง เพราะชุดนี้จะไม่มีช่วงเอวเลย ถ้าคุณมีช่วงอกที่ค่อนข้างใหญ่โต หรือช่วงสะโพกที่ผายกว้าง คุณอาจไม่เหมาะที่จะใส่ชุดแบบนี้
  • Sheath ถ้าหากคุณมีรูปร่างสูงโปร่ง หรือมีหุ่นเพรียวสวยคุณก็น่าจะใส่ชุดรัดรูปทรงนี้ ซึ่งจะเน้นให้เสรีระที่สวยจนน่าเหลือเชื่อของคุณรูปทรงเรียวยาวของชุดนี้หากได้รับการตัดเย็บอย่างประณีต จะไม่ทำให้ผู้หญิงร่างเล็กอย่างคุณดูโตขึ้น แต่จะเน้นสัดส่วนทรวดทรงองค์เอวที่คุณมีให้น่าดูยิ่งขึ้น “อยากจะแนะนำเพิ่มเติมว่า ถ้าคุณไม่ใช่คนที่มีรูปร่างสูง ก็ใส่ชุดที่ค่อนข้างเรียบเถอะค่ะ อย่าไปติดลูกไม้ ลูกปัดอะไรให้วุ่นวาย หนักตัวเปล่าๆ แต่ลองหาชุดที่มีลูกเล่นตรงช่วงไหล่ เพราะจะช่วยเสริมใบหน้าของคุณให้ดูเด่น ขึ้นมาอีก

 

  1. เลือกรูปทรงให้กับคอเสื้อ

แม้ว่าโดยหลักๆ แล้วทรงคอเสื้อ คือส่วนที่รับกับช่วงคอและใบหน้าของผู้สวมใส่ แต่การออกแบบทรงคอเสื้อที่ดียังควรสอดรับกับรูปร่างช่วงแขน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงอก คุณจะเห็นว่าไม่ว่าเสื้อผ้าชุดไหนๆ ต่างก็จะมีทรงคอเสื้อที่ต่างกันไป นั่นเพราะทรงคอเสื้อ เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมรูปทรงของชุด ดังนั้นการจะเลือกทรงคอเสื้อให้เข้าชุดกันดีกับชุดพิเศษเฉพาะของคุณ คุณจะต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ อย่างแรกคุณควรคำนึงถึงความยาวของช่วงคอของคุณเสียก่อน ทรงคอเสื้อต่ำจะทำให้คุณดูมีช่วงคอที่ยาวขึ้น ขณะที่คอเสื้อทรงสูง จะทำให้ช่วงคอของคุณดูสั้นลง

  • ทรงทับทิม เป็นรูปทรงที่รู้จักกันทั่วๆ ไปในรูปของคอเสื้อ T-shirt ซึ่งรูปทรงเสี้ยววงกลมจะรับอยู่ตรงช่วงจาดคอพอดี ดังนั้นถ้าหากคุณมีช่วงหน้าอกที่เต็มเปี่ยม และเคยใส่เสื้อ T-shirt มาก่อนคุณจะรู้ดีว่า ทรงทับทิม ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก ถ้าคุณจะใส่ในวันงานสำคัญของคุณ แต่สำหรับคุณที่มีหน้าอกค่อนข้างเรียบแปล้คอเสื้อทรงนี้จะช่วยเสริมให้คุณดูมีหน้าอกมากขึ้น
  • ทรงเปิดไหล่ รูปทรงของคอเสื้อสไตล์นี้ จะอยู่ต่ำกว่าหัวไหล่ลงมา ปลายเสื้อจะปกปิดด้านบอสุดของแขน ซึ่งทุกคนสามารถสวมชุมสไตล์นี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อออกแบบผสมผสานกับรูปทรงหัวใจ จะยิ่งเสริมทรวดทรงของผู้หญิงที่มีหน้าอกค่อนข้างเต็มอิ่ม ให้ดูสวยยิ่งขึ้น แต่ถ้าคุณไม่สะดวกใจที่จะโชว์ต้นแขนที่ใหญ่ของคุณ คุณก็อาจจะให้ช่างใช้ผ้าที่โปร่งบาง อย่างผ้าชีฟองมาทำระบายเน้นรอบคอก็ได้ ซึ่งจะช่วยเผนช่วงลำคอระหงของคุณให้ดูสวย และดูเซ็กซี่ยิ่งขึ้น
  • ซาบรีนา ทรงนี้คอเสื้อจะเป็นรูปโค้งต่ำอยู่ระดับไหปลาร้าช่วงปลายด้านข้างจะอยู่เกือบถึงด้านท้ายของหัวไหล่ การตัดเย็บค่อนข้างจะปกปิดช่วงบนจึงเหมาะสำหรับคุณที่มีช่วงอกค่อนข้างเล็ก
  • ทรงคอสูง ทรงนี้คอจะเป็นรูปตัววี แต่จะยกสูงกว่าทรงหัวใจด้านหลังมักจะเปิดโล่ง และช่วงแขนเสื้อจะตัดเย็บให้มีขนาดเล็กพาดตรงช่วงไหล่เพื่อเผยช่วงไหล่กว้างเนียนขาวทรงนี้จะไม่มีผลต่อขนาดของผู้สวมใส่ ไม่ว่าคุณจะมีช่วงอกที่เล็ก หรือใหญ่ คุณก็สามารถใส่ชุดที่มีทรงคอสูงนี้ได้ อ้อ แต่มีข้อแม้ว่าคุณจะต้องมีรูปร่างที่ค่อนข้างสูงหน่อยจึงจะใส่ได้สวย
  • ทรงสกู๊ปหรือคอกว้าง ทรงนี้คอจะคว้านลึกในระดับเดียวกับทรงหัวใจ แต่จะมีระดับความกว้างมากกว่า จนดุเหมือนจะเป็นกรอบสี่เหลี่ยม โดยส่วนใหญ่ด้านหลังเสื้อจะตัดเย็บให้มีลักษณะคว้านลึกเช่นเดียวกับด้านหน้า
  • เอาล่ะ ทีนี้คุณก็พอจะมีตัวเลือกอยู่ในใจแล้วใช่ไหมคะ ลองยืนสำรวจดูรูปร่างของคุณตรงหน้ากระจกแล้วลองจิตนาการดูซิว่าคุณควรสวมชุดแบบไหนดีจึงจะทำให้คุณดูสวนที่สุดในวันงาน

 

  1. เลือกผ้าให้เข้ากับแบบของชุดวิวาห์

ชุดแต่งงานส่วนใหญ่จะใช้ผ้าหลายชนิดในการตัดเย็บ ประกอบเข้าชุดซึ่งผ้าแต่ละชนิดเมื่อนำมาตัดเย็บจะให้รูปทรงที่มองดูแล้วให้ความรู้สึกแตกต่างกันออกไป แม้จะตัดเย็บในรูปแบบเดียวกันก็ตาม ผ้าแต่ละชนิดจะมีน้ำหนัก และความเหมาะสมกับฤดูกาลที่แตกต่างกัน ซึ่งรวมไปถึงราคาที่คุณจะต้องจ่ายด้วย

  • ผ้าไหมยกดอกเงิน หรือทอง มักนิยมใส่ในช่วงหน้าหนาวเพราะสามารถให้ความอบอุ่น แก่ผู้สวมใส่ได้ดี
  • ผ้าชามังส์ ลักษณะคล้ายผ้าซาติน ค่อนข้างเป็นมันเงาและมีน้ำหนักค่อนข้างเบา
  • ผ้าชีฟอง เนื้อผ้าละเอียด โปร่ง เบา และนุ่ม เป็นผ้าที่ทำมาจากผ้าไหม หรือผ้าแพรเทียม มักนิยมนำมาประกอบเป็นผ้าคลุมกระโปรง ผ้าระบายช่วงปลายแขนเสื้อ และผ้าคลุมไหล่
  • ผ้าไหม มีหลากหลายชนิดตามลักษณะเนื้อผ้า และน้ำหนักเป็นที่ต้องการของเจ้าสาวส่วนใหญ่ และเป็นผ้าที่มีราคาแพงที่สุด
  • ผ้าสังเคราะห์ เนื้อผ้าจะบาง กรอบ เหมือนผ้าชีฟอง แต่ค่อนข้างกระด้าง มักนิยมนำมาตัดกระโปรงในปัจจุบันนอกจากนี้ยังนิยมนำมาใช้เย็บประกอบปลายแขนเสื้อและชุดรักอก หรือผ้าคลุมด้านหลังอีกด้วย
  • ผ้าซาติน จะมีน้ำหนัก ลื่น และเป็นมันด้านหน้า ส่วนด้านหลังจะด้าน ชุดแต่งงานเกือบทุกชุดจะต้องมีส่วนหนึ่งของชุดที่ใช้ผ้าซาตินตัดเย็บประกอบ
  • ผ้ากำมะหยี่ โดยมากจะถูกนำมาใช้ตกแต่งรายละเอียดปลอกแขนช่วงปลาย ชุดรัดอก และตัดเย็บตัว ชุดด้วย

 

 

 

  1. โทนสีของผ้า ทำไมต้องเป็นสีขาว

ถ้าคุณไม่ต้องการใส่ชุดสีขาวในงานเลี้ยงแต่งงานของคุณก็ไม่เป็นไรค่ะ ที่สีขาวเป็นที่นิยม นั่นก็เพราะมันสื่อถึงความบริสุทธิ์ทั้งทางใจและทางกาย แต่เชื่อแน่ว่า ควรรักที่ยิ่งใหญ่ของคุณทั้งสอง คงแทนความหมายทั้งหมดของความบริสุทธิ์แล้ว ดังนั้นที่เหลือก็คือการเลือกโทนสีที่คุณชอบและทำให้คุณดูสวย และเหมาะกับองค์ประกอบของสถานที่จัดงานของคุณเถอะค่ะ แต่ถึงอย่างนั้นโทนสีกับลักษณะเฉพาะของเนื้อผ้าควรจะสอดคล้องกันด้วยนะคะ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว โทนสีที่ได้รับความนิยมในการนำมาตัดเย็บชุดแต่งงานยังคงเป็นโทนสีอ่อนๆ ที่ดูคล้ายสีขาว โดยมีวิธีเลือกให้เหมาะสมกับสีผิวของคุณดังนี้ค่ะ

  • สีขาวสว่าง จะดูสวยมาก หากเป็นผ้าใยสังเคราะห์อย่างผ้าซาติน หรือผ้าแพร บางมัน ซึ่งจะขับผิวคล้ำ   ให้ดูสวยแปลกตา แต่ถ้าคุณมีโทรผิวขาวก็ไม่ควรสวมชุมโทนสีนี้ เพราะมันจะลดความโดดเด่นของความขาวสวยของผิวคุณไป
  • สีขาวอ่อนอย่างเป็นธรรมชาติ โทนสีขาวอ่อนดูเป็นธรรมชาติอย่างผ้าไหม จะเหมาะกับทุกโทนสีผิว โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวสีเหลือง
  • สีขาวเหลืองเปลือกไข่ คุณที่มีผิวสีขาวอมชมพู เหมาะที่จะใส่ผ้าสีนี้ เพราะจะขับผิวให้ดูสวยยิ่งขึ้น       แต่ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าตัวเองมีผิวสีอะไรกันแน่ ขอแนะนำว่าอย่าใส่ชุดนี้เป็นอันขาด เพราะคุณอาจดูเป็นเจ้าสาวขี้โรคไปได้ ถ้าหากโทนสีผิวของคุณไม่เหมาะกับโทนสีของชุด
  • สีชมพูอ่อน เหมาะกับคุณที่มีโทนสีผิวค่อนข้างคล้ำ หรือเหลือง

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อได้ว่า คุณคงพอจะมีความรู้มากพอเกี่ยวกับชนิด และคุณสมบัติของผ้า โทนสี      และรูปทรงที่จะตัดเย็บให้เข้าชุดกับรูปร่างของคุณแล้วใช่ไหมคะ ทีนี้คุณก็พร้อมแล้วล่ะค่ะ ที่จะลงสนามเลือก       ชุดวิวาห์ด้วยตัวคุณเอง อ้อ! อย่าลืมชวนใครไปเป็นเพื่อนช่วยคิดสักคนนะคะ

banner-promo

Share this with friends